FkoMiko

รูปภาพของฉัน
Hello,My Name is FkoMiko ,I am a makeup Artist and Columnist About BigBike.

วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2560

น้ำแร่ผสมชาเขียว Sevenselect เขย่าก่อนดื่ม

น้ำแร่ผสมชาเขียว Sevenselect เขย่าก่อนดื่ม




          ช่วงนี้กระแสของขนม น้ำ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีขายในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 นั้นเรียกได้ว่าได้รับความสนใจแก่ผู้บริโภคที่ชื่นชอบและชอบที่จะลองสินค้าที่ออกมาใหม่มาเจ้าสินค้าชนิดนี้ที่เขาโฆษณากันอยู่เนี๊ยมันดีจริงไหม





          ซึ่งเมื่อวานก่อนเอฟก็ได้ไปเจอกับน้ำแร่ธรรมชาติในเซเว่นฯซึ่งเป็นแบรนด์ของ Sevenselect ที่ข้างขวามาพร้อมกับซองผงมัทฉะ ที่แฟนๆชาเขียว เห็นแล้วต้องรีบคว้า รวมถึงเอฟที่เรียกว่าเป็นแฟนพันธ์แท้ของชาเขียว และ มัทฉะ ที่เห็นบุ๊บก็คว้าปั๊บ...เพราะอยากจะรู้ว่ารสชาติมันจะเป็นยังไงน๊า 

การรีวิวเจ้าน้ำแร่ธรรมชาติผสมชาเขียว ในวันนี้ ถือว่า Product ชิ้นนี้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่รักสุภาพมาก เพราะจากการสอบผู้ที่ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อ น้ำแร่ธรรมชาติผสมชาเขียว นี้ส่วนใหญ่เลือกซื้อเพราะคาดหวังว่าถ้าได้ดื่มแล้วน่าจะดีต่อสุขภาพ เพราะตัวน้ำก็เป็นน้ำแร่จากธรรมชาติ 100% จากแหล่งเขาแก้วซึ่งเป็นภูเขาหินกรวดบนภูเขาไฟและยังอุดมไปด้วยแร่ธาติที่จำเป็นต่อร่างกาย



          ส่วนผงมัทฉะที่ติดมาข้างขวดนั้นเป็นผงชาเขียวจากประเทศญี่ปุ่น โออิ โอฉะ ชาราชารา เรียวคุฉะ ที่ผลิดโดย บริษัทอิโต เอ็น จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ที่มาพร้อมกับส่วนประกอบ ชาเขียว 65% เด็กซ์ทริน 33% วิตามินซี 2%   

          มาพูดในเรื่องของราคา ซึ่งเรียกว่าเอาเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะน้ำแร่ก็ปาไปขวดละ 7 บาทละ บวกกับผงชามัทฉะนำเข้าอีก 8 บาท รวมแล้วก็ 15 บาท หุหุ ราคาก็เอาเรื่องอยู่น๊าาา





          สำหรับวิธีชงก็แสนง่าย แค่เพื่อนฉีกซองชาเขียวเทใส่ขวดน้ำแร่ แล้วก็เขย่าๆให้ผงชาเขียวเข้ากับน้ำแร่ แค่นี้ก็ได้น้ำแร่ชาเขียวธรรมชาติไปดื่มเพื่อสุขภาพแล้วค๊า.....





          มาพูดถึงเรื่องรสชาติ ถ้าเพื่อนๆเคยดื่มชาเขียวฟูจิฉะฝาขาว นิเรียกว่าใกล้เคียงกันเลยค่ะ สำหรับส่วนตัวซึ่งเอฟเป็นคนชอบดื่มชาเขียวอยู่แล้วถึงว่ารถชาติไม่ได้ขี้เหร่อะไร ซึ่งมีพี่ที่ทดลองดื่มก็บอกว่ารสชาติก็ได้อยู่ แต่จิบแรกบอกออกจะมีความหวานนิสๆในตัวของชา แต่ไม่ได้หวานแบบผสมน้ำตาลนะค่ะ คือมันจะออกหอมๆหวานๆอะค่ะ ยังไงแฟนๆคอชาเขียวก็ไปลองหาซื้อ 
น้ำแร่ธรรมชาติผสมชาเขียว เป็นแบรนด์ของ Sevenselect ดื่มกันได้ที่ 7-11 ค่ะ

ไปหาหมอรักษาสิวที่ลุมพินีคลีนิคกันดีกว่า ตอน 2

 

ไปหาหมอรักษาสิวที่ลุมพินีคลีนิคกันดีกว่าตอน 2

บริเวณด้านหน้าของลุมพินีคลีนิค

          อย่างที่เคยเกริ่นไว้ตั้งแต่รีวิวแรกกับการไปรักษาสิวที่คลีนิครักษาสิวชื่อดังราคาสะบายกระเป๋าอย่างลุมพินีคลีนิค ซึ่งในรีวิวครั้งแรกก็ได้แนะนำขั้นตอนและการเดินทางไปที่คลีนิคนี้กันไปแล้ว รวมถึงแนะนำตัวยาบางตัวที่คุณหมอได้ให้มารักษาหน้าในครั้งนั้นอีกด้วยว่าเจ้าตัวยาที่ได้นำมารักษานั้นจะสามารถจัดการเจ้าสิวตัวแสบได้หรือไม่


บริเวณด้านหน้าของลุมพินีคลีนิค
          ก่อนอื่นต้องขออธิบายสภาพผิวหน้าในการรักษาในครั้งนี้ก่อนนะค่ะซึ่งจะเป็นคนที่ผิวแพ้ง่ายถึงง่ายมาก หรือชนิดที่ว่า โค-ตะ-ระ แพ้ เลยอะค่ะ เพราะไม่ว่าจะใช้อะไรเดียวก็ผื่นขึ้น สิวอุดตันขึ้น อักเสบขึ้น โอ๊ย...พูดแล้วก็เคลียดเลยค่ะ ผิวจะออกไปทางผสม ค่อนข้างมัน ผิวไม่เรียบเนียบ มีรอยดำสิว ประปายค่ะ พูดเรื่องสภาพหนังหน้าแล้วเราก็ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าคุณหมอจะสั่งยาตัวไหนในการรักษาสิวในครั้งนี้กันบ้าง


BP 5% ฝาสีแดง

          เริ่มด้วยยาตัวแรกที่มีชื่อว่า BP 5% ฝาสีแดง ตัวนี้จะมี 2 ขนาดค่ะ จะมีแบบตลับ  5 กรัม ราคา 50 บาท (แบบตลับเนื้อจะข้นๆค่ะ) และก็ขนาด 10 กรัม ราคา 100 บาท เนื้อยาจะไม่ข้นเท่าแบบตลับแต่คุณสมบัติเหมือนกัน

 


          คุณสมบัตของ  BP 5% นั้นจะช่วยในเรื่องของสิวอุดตัดบนใบหน้า โดยให้ทาเจ้า BP 5% บริเวณสิว หรือ ทั่วหน้า ทาบางๆ ก่อนการล้างหน้าตอนเย็น ทาทิ้งไว้ 10 - 30 นาที แล้วล้างออก ตัวนี้แนะนำให้ทาเป็นประจำ สำหรับคนที่ชอบเป็นสิวอุดตัน   



         อีกหนึ่งตัวยาที่ช่วยในเรื่องสิวอักเสบและสิวอุดตันนั้นก็คือ C+M Lotion จะเป็นโลชั่นคล้ายๆมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะทาไปแล้วจะรู้สึกแสบๆแล้วแห้งไว สำหรับตัวยานี้ก็จะช่วยให้สิวยุบตัวแต่ถ้าทาเยอะเกินไปจะทำให้หน้าแห้งและลอกค่ะ สำหรับ C+M Lotion ราคาจะแพงกว่าตัวอื่นหน่อยค่ะ จะอยู่ที่ 110 บาท เท่าที่เคยซื้อจะมีขวดเล็กขนาดเดียวค่ะ ขวดเดียวก็ใช้ได้เดือนครึ่ง




          อีกหนึ่งตัวยาที่เลิฟสุดๆชอบมากๆราคาก็แสนถูกนั้นก็คือ AL-Lotion หรือเรียกง่ายๆก็คือ เจ้าแป้งน้ำ ไอเท็มสุดฮิตที่เชื่อว่าสวยๆคนไหนที่ไปรักษาสิวที่นี้แล้วละก็ต้องมีติดมือกลับมาบ้านกันคนละขวดแน่นอนค่ะ (คือคุณหมอจะสั่งให้อะค่ะ...อิอิ) 




ว่าด้วยเรื่องคุณสมบัติของ AL-Lotion หรือ เจ้าแป้งน้ำตัวนี้ นั้นมีคุณสมบัติยับยั่งสิวอักเสบ ต้องบอกเลยค่ะว่ามันเอาอยู่เลยทีเดียวค่ะ เพราะทาแล้วเจ้าสิวอักเสบที่เป็นอยู่จะเริ่มค่อยๆลดการอักเสบได้ดี ซึ่งวิธีใช้ก็ให้เพื่อเขย่าขวดก่อนแล้วทาบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ ถ้าใครไม่แคร์สื่อก็แต้มออกไปเดินตลาดได้เลยค่ะ แต่ระหว่างคุณตำรวจจะคิดว่าเราเป็นชาวต่างชาติ (ต่างด้าวได้นะค่ะ...โดยเฉพาะเจ้าของรีวิวนิหน้าตาเป็นต่างด้าวก็ได้อยู่นะค่ะเนี๊ย...อิอิ)


          สำหรับราคาของเจ้าแป้งน้ำไอเท็มแก้สิวอักเสบก็เรียกว่าราคาสบายกระเป๋าเพราะราคาขวดเล็กอยู่ที่ 50 บาท และขวดใหญ่อยู่ที่ 100 บาท หากเพื่อนเป็นไม่เยอะถึงปลานกลางขวดเล็กขวดเดียวสามารถใช้ได้ 1 เดือน เลยละค่ะ แถมอีกนิสค่ะเคยเห็นคุณหมอจ่ายยาตัวนี้ให้กับคนที่เป็นสิวอักเสบที่หลังด้วยนะค่ะ งั้นแสดงว่าขึ้นตรงไหนก็ทาไปเลย รับรองยุบ ค่ะ



          และนี้ก็เป็น 3 ตัวยา ที่คุณหมอจ่ายยาในการรักษาสิว ซึ่งที่นี้จะเป็นการรักษาแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป รักษาสิวให้หายก่อนแล้วค่อยมาดูว่าสภาพหน้าของเราดีขึ้นไหม ถึงจะรักษาขั้นต่อไปเมื่อสิวหายค่ะ แต่กฎเหล็กของการรักษาสิวที่ลุมพินีคลีนิคนั้นก็คือ ห้ามแต่งหน้า คุณหมอจะให้ใช้แค่ ครีมกันแดด กับแป้งเด็กเท่านั้นค่ะ 




          หลังจากที่รักษามาได้สักระยะประมาณ 2 เดือน ก็เห็นได้ว่าสิวอุดตันเริ่มลดลง สิวอักเสบเริ่มไม่ค่อยขึ้น แต่สภาพหน้าก็ยังไม่ค่อยเรียบเด้งสะเท่าไรค่ะ แต่รวมๆเรื่องการรักษาสิวถือว่าโอเค เลยค่ะ สำหรับ EP. จะมารีวิวว่าขั้นตอนต่อไปหลังจากสิวเริ่มหายไปแล้วคุณหมอจะจ่ายยาตัวไหนเพื่อรักษารอยดำจากรอยสิว แล้ว ยาที่ใช้การบำรุงหน้าจะเป็นตัวยสตัวไหน ยังไงก็รอติดตามกันใน EP.3 นะค่ะ

สามารถกดดูรีวิว ไปหาหมอรักษาสิวที่ลุมพินีคลีนิคกันดีกว่า ได้เลยค่ะ