ไปหาหมอรักษาสิวที่ลุมพินีคลีนิคกันดีกว่าตอน 2
|
บริเวณด้านหน้าของลุมพินีคลีนิค |
อย่างที่เคยเกริ่นไว้ตั้งแต่รีวิวแรกกับการไปรักษาสิวที่คลีนิครักษาสิวชื่อดังราคาสะบายกระเป๋าอย่างลุมพินีคลีนิค ซึ่งในรีวิวครั้งแรกก็ได้แนะนำขั้นตอนและการเดินทางไปที่คลีนิคนี้กันไปแล้ว รวมถึงแนะนำตัวยาบางตัวที่คุณหมอได้ให้มารักษาหน้าในครั้งนั้นอีกด้วยว่าเจ้าตัวยาที่ได้นำมารักษานั้นจะสามารถจัดการเจ้าสิวตัวแสบได้หรือไม่
|
บริเวณด้านหน้าของลุมพินีคลีนิค
|
|
ก่อนอื่นต้องขออธิบายสภาพผิวหน้าในการรักษาในครั้งนี้ก่อนนะค่ะซึ่งจะเป็นคนที่ผิวแพ้ง่ายถึงง่ายมาก หรือชนิดที่ว่า โค-ตะ-ระ แพ้ เลยอะค่ะ เพราะไม่ว่าจะใช้อะไรเดียวก็ผื่นขึ้น สิวอุดตันขึ้น อักเสบขึ้น โอ๊ย...พูดแล้วก็เคลียดเลยค่ะ ผิวจะออกไปทางผสม ค่อนข้างมัน ผิวไม่เรียบเนียบ มีรอยดำสิว ประปายค่ะ พูดเรื่องสภาพหนังหน้าแล้วเราก็ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าคุณหมอจะสั่งยาตัวไหนในการรักษาสิวในครั้งนี้กันบ้าง
|
BP 5% ฝาสีแดง |
เริ่มด้วยยาตัวแรกที่มีชื่อว่า BP 5% ฝาสีแดง ตัวนี้จะมี 2 ขนาดค่ะ จะมีแบบตลับ 5 กรัม ราคา 50 บาท (แบบตลับเนื้อจะข้นๆค่ะ) และก็ขนาด 10 กรัม ราคา 100 บาท เนื้อยาจะไม่ข้นเท่าแบบตลับแต่คุณสมบัติเหมือนกัน
คุณสมบัตของ BP 5% นั้นจะช่วยในเรื่องของสิวอุดตัดบนใบหน้า โดยให้ทาเจ้า BP 5% บริเวณสิว หรือ ทั่วหน้า ทาบางๆ ก่อนการล้างหน้าตอนเย็น ทาทิ้งไว้ 10 - 30 นาที แล้วล้างออก ตัวนี้แนะนำให้ทาเป็นประจำ สำหรับคนที่ชอบเป็นสิวอุดตัน
อีกหนึ่งตัวยาที่ช่วยในเรื่องสิวอักเสบและสิวอุดตันนั้นก็คือ C+M Lotion จะเป็นโลชั่นคล้ายๆมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะทาไปแล้วจะรู้สึกแสบๆแล้วแห้งไว สำหรับตัวยานี้ก็จะช่วยให้สิวยุบตัวแต่ถ้าทาเยอะเกินไปจะทำให้หน้าแห้งและลอกค่ะ สำหรับ C+M Lotion ราคาจะแพงกว่าตัวอื่นหน่อยค่ะ จะอยู่ที่ 110 บาท เท่าที่เคยซื้อจะมีขวดเล็กขนาดเดียวค่ะ ขวดเดียวก็ใช้ได้เดือนครึ่ง
อีกหนึ่งตัวยาที่เลิฟสุดๆชอบมากๆราคาก็แสนถูกนั้นก็คือ AL-Lotion หรือเรียกง่ายๆก็คือ เจ้าแป้งน้ำ ไอเท็มสุดฮิตที่เชื่อว่าสวยๆคนไหนที่ไปรักษาสิวที่นี้แล้วละก็ต้องมีติดมือกลับมาบ้านกันคนละขวดแน่นอนค่ะ (คือคุณหมอจะสั่งให้อะค่ะ...อิอิ)
ว่าด้วยเรื่องคุณสมบัติของ AL-Lotion หรือ เจ้าแป้งน้ำตัวนี้ นั้นมีคุณสมบัติยับยั่งสิวอักเสบ ต้องบอกเลยค่ะว่ามันเอาอยู่เลยทีเดียวค่ะ เพราะทาแล้วเจ้าสิวอักเสบที่เป็นอยู่จะเริ่มค่อยๆลดการอักเสบได้ดี ซึ่งวิธีใช้ก็ให้เพื่อเขย่าขวดก่อนแล้วทาบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ ถ้าใครไม่แคร์สื่อก็แต้มออกไปเดินตลาดได้เลยค่ะ แต่ระหว่างคุณตำรวจจะคิดว่าเราเป็นชาวต่างชาติ (ต่างด้าวได้นะค่ะ...โดยเฉพาะเจ้าของรีวิวนิหน้าตาเป็นต่างด้าวก็ได้อยู่นะค่ะเนี๊ย...อิอิ)
สำหรับราคาของเจ้าแป้งน้ำไอเท็มแก้สิวอักเสบก็เรียกว่าราคาสบายกระเป๋าเพราะราคาขวดเล็กอยู่ที่ 50 บาท และขวดใหญ่อยู่ที่ 100 บาท หากเพื่อนเป็นไม่เยอะถึงปลานกลางขวดเล็กขวดเดียวสามารถใช้ได้ 1 เดือน เลยละค่ะ แถมอีกนิสค่ะเคยเห็นคุณหมอจ่ายยาตัวนี้ให้กับคนที่เป็นสิวอักเสบที่หลังด้วยนะค่ะ งั้นแสดงว่าขึ้นตรงไหนก็ทาไปเลย รับรองยุบ ค่ะ
และนี้ก็เป็น 3 ตัวยา ที่คุณหมอจ่ายยาในการรักษาสิว ซึ่งที่นี้จะเป็นการรักษาแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป รักษาสิวให้หายก่อนแล้วค่อยมาดูว่าสภาพหน้าของเราดีขึ้นไหม ถึงจะรักษาขั้นต่อไปเมื่อสิวหายค่ะ แต่กฎเหล็กของการรักษาสิวที่ลุมพินีคลีนิคนั้นก็คือ ห้ามแต่งหน้า คุณหมอจะให้ใช้แค่ ครีมกันแดด กับแป้งเด็กเท่านั้นค่ะ
หลังจากที่รักษามาได้สักระยะประมาณ 2 เดือน ก็เห็นได้ว่าสิวอุดตันเริ่มลดลง สิวอักเสบเริ่มไม่ค่อยขึ้น แต่สภาพหน้าก็ยังไม่ค่อยเรียบเด้งสะเท่าไรค่ะ แต่รวมๆเรื่องการรักษาสิวถือว่าโอเค เลยค่ะ สำหรับ EP. จะมารีวิวว่าขั้นตอนต่อไปหลังจากสิวเริ่มหายไปแล้วคุณหมอจะจ่ายยาตัวไหนเพื่อรักษารอยดำจากรอยสิว แล้ว ยาที่ใช้การบำรุงหน้าจะเป็นตัวยสตัวไหน ยังไงก็รอติดตามกันใน EP.3 นะค่ะ
สามารถกดดูรีวิว ไปหาหมอรักษาสิวที่ลุมพินีคลีนิคกันดีกว่า ได้เลยค่ะ